จริงหรือไม่ Post-it กระดาษโน้ต ที่เกิดจากความผิดพลาด!
January 20, 2020 - by admin Branding, Creative
ความล้มเหลว ไม่ใช่จุดจบ แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่
คำพูดนี้อาจใช้ได้ดีกับกรณีของ Post-it กระดาษโน้ตติดกาว ที่หลายคนคงเคยใช้งาน
ทราบหรือไม่ว่า สินค้าชนิดนี้ เกิดขึ้นจากการทดลองที่ผิดพลาด แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์การบริหารจัดการชีวิต และการทำงานได้ แม้จะเป็นยุคสมัยที่มีเทคโนโลยีเกิดขึ้นมาใหม่มากมาย
เรื่องราวนี้เป็นอย่างไร เราจะเล่าให้ฟัง
เจ้าของแบรนด์ Post-it คือบริษัท 3M ผู้ผลิตและขายผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากกว่า 55,000 รายการ
เมื่อปี 1968 นักวิจัยของบริษัทชื่อ สเปนเซอร์ ซิลเวอร์ ถูกมอบหมายให้ทดลอง เพื่อให้ได้กาวที่มีความเหนียวแน่นเป็นพิเศษ สำหรับใช้ในการสร้างเครื่องบิน ผลปรากฏว่า เขากลับได้กาวที่ไม่มีความเหนียวแทน ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถหลุดลอกได้ง่าย โดยไม่มีร่องรอย และนำกลับมาใช้ใหม่ได้
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ถูกพับเก็บขึ้นหิ้งไว้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร
อยู่มาวันหนึ่ง อาร์เธอร์ ฟราย นักวิจัยอีกคน ได้เจอปัญหากระดาษคั่นหน้าหนังสือเพลง ปลิวหลุดทุกครั้งที่เปลี่ยนหน้า ระหว่างร้องเพลงในโบสถ์ สิ่งที่ฟรายต้องการคือ อะไรที่มายึดกระดาษติดกับหนังสือ และลอกออกไปใช้ใหม่ โดยไม่ทำให้หนังสือเสียหาย ทำให้เขานึกถึงกาวไม่เหนียวของเพื่อนขึ้นมาทันที ทั้งสองได้หารือกัน และพบว่าไอเดียนี้ มีศักยภาพกลายเป็นนวัตกรรมของช่องทางใหม่ในการติดต่อสื่อสารได้เลย โดยเฉพาะในที่ทำงานในปี 1977 บริษัท 3M จึงได้เริ่มวางขายกระดาษโน้ตติดกาว ตอนแรกใช้ชื่อว่า Press ‘n Peel แต่ยังขายไม่ค่อยออก เพราะคนยังไม่เข้าใจในตัวสินค้า
ภายหลังจึงได้ใช้กลยุทธ์ใหม่ เปลี่ยนชื่อสินค้าเป็น “Post-it” ให้ตรงกับลักษณะการใช้งาน และนำไปแจกให้พนักงานบริษัทต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมาย ได้ทดลองใช้ปรากฏว่า ผลออกมาดีมาก เพราะแค่การเขียนไม่กี่คำลงกระดาษ ทำให้การติดต่อสื่อสาร การจัดการเอกสาร และช่วยเตือนความจำ ในที่ทำงาน มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
โดย 94% ของผู้ที่ได้รับแจก กลับมาซื้อของจริงไปใช้ใหม่
นอกจากนี้ กระดาษโน้ตที่ติดไปกับเอกสาร ยังเป็นการโฆษณาสินค้าไปในตัวอีกด้วย ทำให้ Post-it เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน Post-it วางขายในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก มีการพัฒนาขนาดและรูปแบบเพิ่มขึ้นกว่า 4,000 แบบ
และแม้ในปี 1997 สิทธิบัตรกระดาษโน้ตติดกาวของ 3M จะหมดอายุลง แต่ไม่ว่าใครจะผลิตสินค้าชนิดนี้ในชื่ออะไรก็ตามเข้ามาแข่ง คนก็ยังเรียกมันว่า Post-it อยู่ดี
น่าสนใจเหมือนกันนะที่เแบรนด์สามารถเกิดขึ้นในจากสิ่งที่ถูกทิ้ง เหลือใช้ ไร้ประโยชน์สำหรับบางสิ่ง แต่กลับถูกที่ถูกเวลาสำหรับบางอย่าง ดังนั้นเราจึงควรคำนึงว่าของบางสิ่งอาจไม่ได้เกิดเพื่อทำหน้าที่เดียว ลองเปลี่ยนของที่คุณมองข้ามให้มีคุณค่ายิ่งใหญ่ดูนะ
Reference
https://www.longtunman.com/13488